ข่าวประชาสัมพันธ์
ไอวีแอลเข้าซื้อธุรกิจ PET ในตุรกี มองตลาดโตเร็ว ผู้เล่นน้อยราย สร้างมูลค่าเพิ่มให้อินโดรามา
กรุงเทพฯ – ประเทศไทย – 3 มิถุนายน 2557– บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล ผู้ผลิตในห่วงโซ่โพลีเอสเตอร์แบบครบวงจรชั้นนำระดับโลก ประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัท Artenius TurkPETซึ่งเป็นโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก PET มีกำลังการผลิต 130,000 ตันต่อปี ตั้งอยู่ในเมืองอาดานา ประเทศตุรกี ในสัดส่วนร้อยละ 100 “แรงผลักดันอย่างต่อเนื่องของเรา คือ การลงทุนในธุรกิจที่ทำกำไรดีและสร้างผลตอบแทนที่ดีเยี่ยมแก่ผู้ถือหุ้น” นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฯ กล่าว “ความเป็นผู้นำในธุรกิจในห่วงโซ่ PET ของอินโดรามา
เวนเจอร์ส จะช่วยเสริมให้บริษัท TurkPETสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่า ประเทศตุรกีและพื้นที่โดยรอบเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
การลงทุนของเราในตุรกีเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่จะช่วยเสริมสร้างความเป็นผู้นำระดับโลกของเราและเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน บริษัทฯ คาดว่า จะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในพื้นที่นี้ต่อไป เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจและมีจำนวนผู้บริโภคกว่า 76 ล้านคน เช่นเดียวกับที่เราเคยสร้างการเติบโตในประเทศไทย เรามองเห็นโอกาสที่คล้ายคลึงกันในการใช้ประโยชน์จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เรามีเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพอย่างเต็มที่” ตุรกีเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ มีเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวของความเป็นเมืองอย่างมาก ส่งผลให้มีความต้องการผลิตภัณฑ์ PET ในระดับสูง อีกทั้งที่ตั้งที่อยู่ในยูเรเชีย ทำให้สามารถเข้าถึงเอเชียกลาง ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือและยุโรปใต้ได้โดยง่ายผ่านระบบขนส่งทั้งทางบกและทางทะเล “ทีมผู้บริหารปัจจุบันของบริษัท Artenius TurkPETเป็นทีมที่มีคุณภาพ การร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยขยายการขายไปยังภูมิภาคใหม่ๆ ให้สามารถรองรับตลาดทั้งภายในประเทศและในระดับภูมิภาค การที่บริษัทมีการดำเนินธุรกิจในตลาดภายในประเทศครอบคลุมตลาดหลักที่สำคัญ จะช่วยให้เราเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำในภูมิภาคนั้นๆ ด้วยเช่นกัน” นายโลเฮียกล่าว
การเข้าซื้อกิจการบริษัท Artenius Turkpetเกิดขึ้นหลังจากการลงนามในสัญญาเพื่อเข้าซื้อกิจการบริษัท Polyester Sanayi A.Ş (SASA)เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2557 ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อิสตันบูลในสัดส่วนร้อยละ 51ทั้ง SASA และ Artenius TurkPET ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน ทำให้เกิดความร่วมมือและเกื้อหนุนทางธุรกิจในอนาคตต่อไป
“อินโดรามา เวนเจอร์สมองว่าตุรกีเป็นตลาดที่สำคัญ รองรับตลาดยุโรปและตลาดเอเชีย-ตะวันออกกลาง การเข้าสู่ตลาดตุรกีแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ผสมผสานกับกลยุทธ์การบูรณาการในแนวดิ่งและแนวนอนไปยังผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม (HVA) ทำให้สามารถให้บริการลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำด้วยการผสมผสานผลิตภัณฑ์คอมโมดิตี้และผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มในกลุ่มเส้นใยภายใต้สภาพแวดล้อมการดำเนินงานที่มีต้นทุนต่ำ และอยู่ใกล้กับทั้งตลาดที่กำลังพัฒนาและตลาดที่อิ่มตัว” นายโลเฮียกล่าวสรุป
เวนเจอร์ส จะช่วยเสริมให้บริษัท TurkPETสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่า ประเทศตุรกีและพื้นที่โดยรอบเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
การลงทุนของเราในตุรกีเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่จะช่วยเสริมสร้างความเป็นผู้นำระดับโลกของเราและเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน บริษัทฯ คาดว่า จะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในพื้นที่นี้ต่อไป เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจและมีจำนวนผู้บริโภคกว่า 76 ล้านคน เช่นเดียวกับที่เราเคยสร้างการเติบโตในประเทศไทย เรามองเห็นโอกาสที่คล้ายคลึงกันในการใช้ประโยชน์จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เรามีเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพอย่างเต็มที่” ตุรกีเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ มีเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวของความเป็นเมืองอย่างมาก ส่งผลให้มีความต้องการผลิตภัณฑ์ PET ในระดับสูง อีกทั้งที่ตั้งที่อยู่ในยูเรเชีย ทำให้สามารถเข้าถึงเอเชียกลาง ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือและยุโรปใต้ได้โดยง่ายผ่านระบบขนส่งทั้งทางบกและทางทะเล “ทีมผู้บริหารปัจจุบันของบริษัท Artenius TurkPETเป็นทีมที่มีคุณภาพ การร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยขยายการขายไปยังภูมิภาคใหม่ๆ ให้สามารถรองรับตลาดทั้งภายในประเทศและในระดับภูมิภาค การที่บริษัทมีการดำเนินธุรกิจในตลาดภายในประเทศครอบคลุมตลาดหลักที่สำคัญ จะช่วยให้เราเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำในภูมิภาคนั้นๆ ด้วยเช่นกัน” นายโลเฮียกล่าว
การเข้าซื้อกิจการบริษัท Artenius Turkpetเกิดขึ้นหลังจากการลงนามในสัญญาเพื่อเข้าซื้อกิจการบริษัท Polyester Sanayi A.Ş (SASA)เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2557 ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อิสตันบูลในสัดส่วนร้อยละ 51ทั้ง SASA และ Artenius TurkPET ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน ทำให้เกิดความร่วมมือและเกื้อหนุนทางธุรกิจในอนาคตต่อไป
“อินโดรามา เวนเจอร์สมองว่าตุรกีเป็นตลาดที่สำคัญ รองรับตลาดยุโรปและตลาดเอเชีย-ตะวันออกกลาง การเข้าสู่ตลาดตุรกีแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ผสมผสานกับกลยุทธ์การบูรณาการในแนวดิ่งและแนวนอนไปยังผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม (HVA) ทำให้สามารถให้บริการลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำด้วยการผสมผสานผลิตภัณฑ์คอมโมดิตี้และผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มในกลุ่มเส้นใยภายใต้สภาพแวดล้อมการดำเนินงานที่มีต้นทุนต่ำ และอยู่ใกล้กับทั้งตลาดที่กำลังพัฒนาและตลาดที่อิ่มตัว” นายโลเฮียกล่าวสรุป