ประวัติความเป็นมาของบริษัท
สร้างฐานะผู้นำระดับโลกในธุรกิจ PET
ในช่วง 15 ปีแรก บริษัทของเราในนาม อินโดรามา โฮลดิ้ง ได้พัฒนากลุ่มธุรกิจที่หลากหลาย เริ่มต้นจากการเป็นผู้ผลิตเส้นใยขนสัตว์รายแรกของประเทศไทย ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ธุรกิจเคมีภัณฑ์ และประสบความสำเร็จในฐานะผู้ผลิต PET และเส้นใยโพลีเอสเตอร์รายใหญ่ที่สุดในประเทศ จากนั้น เราได้มีการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคต่างๆ โดยเข้าซื้อกิจการในทวีปอเมริกาและทวีปยุโรป ทำให้เราเป็นผู้ผลิตสารตั้งต้น PTA รายใหญ่ในอุตสาหกรรมและเป็นผู้ผลิต PET ระดับโลก
2537
- ก่อตั้งบริษัท อินโดรามา โฮลดิ้งส์ จำกัด ผู้ผลิตเส้นด้ายจากขนสัตว์รายแรกของประเทศไทย เติบโตอย่างรวดเร็วและได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเส้นด้ายจากขนสัตว์รายใหญ่ของโลก
2538
- เข้าสู่ธุรกิจปิโตรเคมีด้วยการก่อตั้งโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก PET ในประเทศไทย
2539
- ขยายธุรกิจ PET ไปยังธุรกิจปลายน้ำด้วยการผลิตพลาสติกขึ้นรูปขวด ขวดพลาสติก และฝาขวด จากการร่วมทุนกับบริษัท เสริมสุข ซึ่งเป็นผู้ผลิตขวดพลาสติกให้กับเครื่องดื่มเป๊บซี่ที่จำหน่ายในประเทศไทย
2540
- เข้าสู่ธุรกิจโพลีเอสเตอร์ด้วยการเข้าซื้อกิจการบริษัท อินโด โพลี ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์ในประเทศไทย และขยายธุรกิจจนกลายเป็นผู้ผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
2546
- ขยายธุรกิจ PET ไปสู่ระดับนานาชาติด้วยการเข้าซื้อบริษัท StarPet ในประเทศสหรัฐอเมริกา
2548
- บริษัท อินโดรามา โพลีเมอร์ส จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
2549
- ขยายธุรกิจไปยังทวีปยุโรป ด้วยการจัดตั้งบริษัท Orion Global PET ที่ประเทศลิทัวเนีย
2551
- เข้าสู่ธุรกิจ PTA วัตถุดิบที่ใช้ผลิตเม็ดพลาสติก PET และโพลีเอสเตอร์ โดยเข้าซื้อและก่อตั้งบริษัท IRH Rotterdam บริษัท Indorama Petrochem และ บริษัท ทีพีที ปิโตรเคมิคอลส์ และได้เข้าซื้อกิจการบริษัททุนเท็กซ์ ผู้ผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
- เข้าซื้อกิจการโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก PET ของบริษัท Eastman Chemical อีก 2 แห่ง เพิ่มความเข็งแกร่งในตลาดทวีปยุโรป
บูรณาการธุรกิจ PET และเส้นใย
บริษัทอินโดรามา โฮลดิ้ง เปลี่ยนมาดำเนินธุรกิจภายใต้นามบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด หรือ ไอวีแอล และขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องไปยังทวีปยุโรป ในประเทศอิตาลี เนเธอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ และโปแลนด์ สร้างฐานในทวีปเอเชีย โดยการเข้าซื้อกิจการโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก PET ในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน และโรงงานผลิตเส้นใยในประเทศไทยและอินโดนีเซีย เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในภูมิภาคเอเซียตะวันออก
2552
- เสร็จสิ้นการก่อสร้างบริษัท AlphaPet ในรัฐอลาบามา ประเทศสหรัฐอเมริกา
- เริ่มใช้ชื่อ อินโดรามา เวนเจอร์ส ในการเรียกบริษัทในกลุ่มทั้งหมด
2553
- บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และยกเลิกการจดทะเบียนของบริษัท อินโดรามา โพลีเมอร์ส
- เข้าซื้อบริษัท Ottana Polimeri ในประเทศอิตาลี จากการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน
2554
- เข้าซื้อสินทรัพย์ธุรกิจโพลีเมอร์สจากบริษัท INVISTA ตั้งอยู่ที่รัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา และที่เมือง Queretaro ในประเทศเม็กซิโก
- เข้าซื้อสินทรัพย์ธุรกิจของ SK Chemicals ในประเทศโปแลนด์และอินโดนีเซีย โรงงานผลิต PET และเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ในประเทศอินโดนีเซียเสริมการมุ่งเน้นในการดำเนินกาธุระกิจโพลีเอสเตอร์
- ดำเนินธุรกิจในประเทศจีนเป็นครั้งแรก โดยการเข้าซื้อกิจการ Guangdong IVL PET Polymer ที่เมืองไคปิง มณฑลกวางตุ้ง
- เข้าซื้อกิจการผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์แบบสั้น และเส้นใยชนิดพิเศษ จากบริษัท Trevira Holding GmbH ประเทศเยอรมนี พร้อมสิทธิบัตร เทคโนโลยี และศูนย์วิจัยและพัฒนา เพิ่มผลิตภัณฑ์โพลีเอสเตอร์ให้กับลูกค่าทั่วโลก
- ขยายโรงงานผลิต PTA ที่บริษัท Indorama Holdings Rotterdam B.V. ในประเทศเนเธอร์แลนด์
- เข้าซื้อกิจการโรงงาน PTA ในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อขยายธุรกิจโพลีเอสเตอร์
- เข้าสู่ธุรกิจการรีไซเคิลด้วยการซื้อกิจการของบริษัท Wellman International ประเทศไอร์แลนด์ ผู้รีไซเคิล PET รายใหญ่และผู้นำด้านการผลิต PET และเส้นใยรีไซเคิลของยุโรป
กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม – สำหรับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย ยานยนต์ และอุตสาหกรรม
ระยะเวลา 4 ปีนี้ถือเป็นช่วงแห่งการเติบโตของอินโดรามา เวนเจอร์ส เพิ่มการผลิตอย่างรวดเร็ว ขยายธุรกิจด้วยกลยุทธ์การเข้าซื้อกิจการทั่วโลก รวมถึงในประเทศแคนาดา จีน กานา อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ไนจีเรีย ฟิลลิปปินส์ สเปน ไทย ตุรกี สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และอื่นๆ
2555
- เข้าซื้อกิจการบริษัท FiberVisions Holdings LLC หนึ่งในผู้ผลิตเส้นใยโพลีโอเลฟินรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีโรงงานในประเทศ สหรัฐอเมริกา ในทวีปยุโรป และในประเทศจีน รวมถึงบริษัทร่วมทุนในประเทศญี่ปุ่น
- เข้าซื้อกิจการ Polypet ในประเทศอินโดนีเซีย
- เข้าซื้อกิจการ Beverage Plastics ในสหราชอาณาจักร
- เข้าซื้อกิจการบริษัท Old World ผู้ผลิตเอทิลีนออกไซด์ และเอทิลีนไกลโคล (EO/EG) รายใหญ่รายเดียวในประเทศสหรัฐอเมริกา
- จัดตั้งโรงงานผลิต PET ที่เมืองพอร์ทฮาร์คอร์ท ประเทศไนจีเรีย เป็นโรงงานผลิด PET แห่งแรกในแอฟริกาตะวันตก และเป็นการดำเนินธุรกิจแรกในทวีปของ IVL
2556
- เข้าซื้อกิจการบริษัทบรรจุภัณฑ์ในประเทศไนจีเรีย
2557
- จัดตั้งโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ประเทศฟิลิปินส์และกานา
- จัดตั้งโรงงานรีไซเคิลขวด PET แห่งแรกในประเทศไทย ด้วเทคโนโลยีจากยุโรปเพื่อผลิดเกล็ด เส้นใย และPETเพื่อบรรจุภัณฑ์อาหาร
- เข้าซื้อกิจการบริษัท PHP Fibers GmbH ผู้ผลิดถุงลมนิรภัยรายใหญ่ที่สุดในยุโรป และบริษัทในกลุ่ม โดยไอวีแอลถือหุ้นร้อยละ 80 และอีกร้อยละ 20 บริษัท Toyobo Co., Ltd ผู้ผลิตสินค้าชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ถือหุ้น
- เข้าซื้อกิจการ ของบริษัท Artenius TurkPET A.S. โรงงานผลิต PET ในประเทศตุรกี
- เข้าซื้อกิจการบริษัท Performance Fibers ในประเทศจีน ผู้นำด้านการผลิตสิ่งทอสำหรับยางในรถยนต์เพื่อเพิ่มและเสริมสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มในกลุ่มสินค้ายานยนต์
2558
- ประกาศเข้าซื้อกิจการ Polyplex ซึ่งเป็นโรงงานผลิต PET แห่งใหม่ในประเทศตุรกี
- เข้าซื้อกิจการบางกอก โพลีเอสเตอร์ (BPC) ประเทศไทย
- ประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัท CEPSA Chimie ในประเทศแคนาดา ผู้ผลิต PTA แห่งเดียวในประเทศ
- เข้าซื้อกิจการโรงงานเอทิลีนแครกเกอร์ที่เมือง Lake Charles รัฐหลุยส์เซียนา ทำให้เราเป็นบริษัทไทยแห่งแรกที่เข้าไปใช้ประโยชน์จาก shale gas ในสหรัฐอเมริกา
เสริมสร้างตำแหน่งผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก
อินโดรามา เวนเจอร์ส สร้างความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโดยการก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตสารตั้งต้น PIA และมีโรงงานผลิตสารตั้งต้น NDC แห่งเดียวในโลก สำหรับธุรกิจ PET มีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในอินเดีย ทำให้ไอวีแอลกลายเป็นผู้ผลิต PET รายใหญ่อันดับสองของประเทศ การเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติมในทวีปยุโรปเสริมสร้างความแข็งแกร่งในตลาด PET และความก้าวหน้าในธุรกิจเส้นใยและสิ่งทอเสิรมกำลังในตลาดยานยนต์สำหรับไอวีแอล
2559
- เข้าซื้อกิจการ BP Amoco Chemical ในรัฐอัลบามา ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ผลิตสาร PX และ PTA รวมทั้งเป็นผู้ผลิตสารตั้งต้น NDC แห่งเดียวในโลก
- เข้าซื้อกิจการ PIA PET และ PTA ของบริษัท CEPSA ประเทศสเปน ทำให้ไอวีแอลกลายเป็นผู้ผลิต PIA ชั้นนำระดับโลก ซึ่งเป็นสารเคมีหลักที่ใช้ในการผลิต PET
- เสร็จสิ้นการร่วมทุนกับบริษัท Dhunseri Petrochem ในบริษัท MicroPet และเข้าถือหุ้นร้อยละ 50 ในบริษัท Dhunseri Petglobal ทำให้มีกำลังการผลิตรวมขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองในประเทศอินเดีย
2560
- ไอวีแอลมีรายชื่อในดัชนี Dow Jones Sustainability Index (DJSI) เป็นครั้งแรก ด้วยการจัดอันดับเป็นหนึ่งในห้าบริษัทเคมีภัณฑ์ที่มีคะแนนดีที่สุด
- เข้าซื้อบริษัท Glanzstoff Group ผู้ผลิตสิ่งทอสำหรับยางในรถยนต์และเส้นด้ายเสริมแรงสำหรับการใช้งานในกลุ่มยานยนต์สมรรถนะสูง รายใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป โดยมีโรงงานตั้งอยู่ที่ประเทศ ลักเซมเบิร์ก อิตาลี และสาธารณรัฐเช็ก
- เข้าซื้อกิจการบริษัท DuraFiber Technologies México Operations ที่ประเทศเม็กซิโก ผู้ผลิตสิ่งทอเทคนิคสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์สำหรับเสริมแรงยางรถยนต์และการใช้งานพิเศษอื่นๆ ทั่วโลก
- เข้าซื้อบริษัท Artlant PTA เมือง Sines ประเทศโปรตุเกส และสินทรัพย์ของโรงงาน Artelia Ambiante ผู้ให้บริการสาธารณูปโภคที่ตั้งอยู่ติดกัน ทำให้ได้รับผลประโยชน์จากการเป็นผู้จัดหาพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ภายในโรงงาน
2561
มีนาคม
- เข้าซื้อกิจการบริษัท M&G Polimeros Brazil ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองอีโปะจูกา ประเทศบราซิล โดยโรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานผลิต PET ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศบราซิล
- การจัดตั้งบริษัทร่วมทุน Corpus Christi Polymers โดยร่วมลงทุนกับบริษัท Alpek และบริษัท Far Eastern group ในสัดส่วนที่เท่ากัน เพื่อซื้อทรัพย์สินกับบริษัท M&G USA และลูกหนี้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าซื้อทรัพย์สินโรงงาน PTA-PET แบบบูรณาการ ที่อยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ตั้งอยู่ที่รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา
- เข้าซื้อกิจการบริษัท Avgol Industries ผู้ผลิตเส้นใย non-woven ชั้นนำ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย โดยมีโรงงาน 6 แห่ง ตั้งอยู่ในประเทศอิสราเอล สหรัฐอเมริกา รัสเซีย จีนและอินเดีย
- จัดตั้งบริษัท Egyptian Indian Polyester Company เป็นการร่วมทุนกับบริษัท Dhunseri Petrochem Limited กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิต PET ที่ใหญ่ที่สุดในแถบตะวันออกกลาง และทวีปแอฟริกา
- จัดตั้ง Huvis Indorama Advanced Materials (HIAM) บริษัทร่วมทุนในประเทศสหรัฐอเมริการ่วมกับบริษัท Huvis Global Corporation ผู้ผลิตเส้นใยที่มีค่าหลอมเหลวต่ำ (LMF) เพื่อใช้ในธุรกิจผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม (HVA)
- เข้าซื้อกิจการบริษัท Kordana ในสาธารณรัฐเช็ก ผู้ผลิตสิ่งทอสำหรับยางในรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป มีโรงงานผลิตในสาธารณรัฐเช็กและสาธารณรัฐสโลวัก
- เข้าซื้อกิจการบริษัท Medco Plast ในประเทศอียิปต์ ซึ่ผู้แปรรูปผลิตภัณฑ์ PET ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณร้อยละ 25
- เข้าซื้อบริษัท Sorepla Industrie ในประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในผู้รีไซเคิลพลาสติกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป
- เข้าซื้อกลุ่มบริษัท Schoeller ผู้ผลิตด้ายขนสัตว์แท้และด้ายขนสัตว์ผสมชั้นนำในทวีปยุโรป มีโรงงานผลิตตั้งอยู่ในประเทศออสเตรีย สาธารณรัฐเช็ก และประเทศเยอรมนี
- เข้าซื้อกิจการของบริษัท M&G Fibras Brasil ผู้ผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์ประเภทเส้นใยสั้น ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองคาโบ เดอซานโต อโกสทินโฮ ประเทศบราซิล
- เข้าซื้อกิจการบริษัท UTT Beteiligungsgesellschaft mbH ประเทศเยอรมนี หนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำด้านเส้นใยถุงลมนิรภัยและสิ่งทอเทคนิคชนิดพิเศษต่างๆ โดยมีโรงงาน 2 แห่งตั้งอยู่ในประเทศเยอรมนี และประเทศเม็กซิโก
- ข้าซื้อกิจการบริษัท INVISTA Resins & Fibers GmbH ในประเทศเยอรมนี รวมถึงสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท INVISTA Textiles (U.K.) ด้านเทคโนโลยี Barrier
- เข้าซื้อกิจการของบริษัท Custom Polymers PET โรงงานรีไซเคิล PET ในรัฐอลาบาม่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วย 2 สายการผลิต ได้แก่ เกล็ดพลาสติก PET รีไซเคิล และเม็ดพลาสติก PET รีไซเคิลสำหรับบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม
- กิจการ PTA-PET แบบบูรณาการ ของบริษัทร่วมทุน ที่เมืองคอร์ปัส คริสตี ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมาธิการกลางว่าด้วยการค้าแห่งสหรัฐเมริกา (The United States Federal Trade Commission: FTC)
- เริ่มต้นการผลิตเชิงพาณิชย์ ณ โรงงานผลิตกรดไอโซทาลิกบริสุทธิ์ (PIA) ของบริษัท Indorama Ventures Xylenes & PTA, LLC ในรัฐอลาบาม่า ประเทศสหรัฐอเมริกา
บริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกก้าวสู่อนาคต
การเติบโตถือเป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์ทางธุรกิจของเรา ไอวีแอลยกระดับความแข็งแกร่งในการเข้าซื้อกิจการและบูรณาการสินทรัพย์ พร้อมมุ่งดำเนินงานทั่วทุกภูมิภาค และมีความหลากหลายด้านรูปแบบธุรกิจ โดยมุ่งเน้นที่จะสานต่อเส้นทางการเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกอย่างแท้จริง
ความยั่งยืนเป็นหลักสำคัญของทุกขั้นตอนการดำเนินธุรกิจของเรา อีกทั้งยังวางรากฐานระยะยาวที่จะสร้างความมั่นใจได้ว่าเรานั้นอยู่ในตำแหน่งที่จะสามารถเสริมสร้างคุณค่าอย่างมีประสิทธิภาพและคว้าโอกาสต่างๆ ทางธุรกิจได้ต่อไป
2562
- Indorama Netherlands ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมเข้าซื้อหุ้นที่ออกใหม่ของบริษัท Indo Rama Synthetics (India) ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของอินเดีย
- เข้าซื้อกิจการในอัตราร้อยละ100 ของบริษัท Bevpak (Nigeria) หนึ่งในผู้ผลิตพลาสติกขึ้นรูปขวดรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก ตั้งอยู่ที่เมืองอิบาดัน ประเทศไนจีเรีย
- เข้าซื้อกิจการร้อยละ 100 ของบริษัท UTT Beteiligungsgesellschaft ประเทศเยอรมนี
- เข้าซื้อกิจการร้อยละ 100 ของบริษัท INVISTA Resins & Fibers GmbH ในประเทศเยอรมนี รวมถึงสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท INVISTA Textiles (UK)
- เข้าซื้อกิจการในอัตราร้อยละ100 ของบริษัท Sinterama และบริษัทย่อย ประกอบด้วยโรงงานผลิต 5 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ใน 4 ประเทศ ได้แก่ ประเทศอิตาลี ประเทศบราซิล ประเทศจีน และสาธารณรัฐ
- อนุมัติการเข้าซื้อธุรกิจและสินทรัพย์บางส่วนจากบริษัท Huntsman Corporation ในประเทศออสเตรเลีย อินเดีย และสหรัฐอเมริกา ส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตออกไซด์แบบบูรณาการและอนุพันธ์ รวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนา สิทธิบัตร และเทคโนโลยีบางส่วน
- เข้าซื้อกิจการในอัตราร้อยละ100 ของบริษัท Green Fiber International ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งและมีโรงงานรีไซเคิลพลาสติกอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โรงงานดังกล่าวมีการผลิตเกล็ด PET รีไซเคิล (rPET flake) สอดคล้องกับกลยุทธ์และวัตถุประสงค์ต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาวของบริษัทและเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนที่ได้ระบุไว้
- ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาเส้นด้าย PET รีไซเคิล 100% สำหรับชุด PPE เป็นรายแรกในประเทศไทย ส่งมอบให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศเพื่อร่วมต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19
- ตั้งบริษัทร่วมทุนร่วมกับโตโยโบ เตรียมก่อสร้างโรงงานผลิตเส้นด้ายสำหรับถุงลมนิรภัยแห่งใหม่ในประเทศไทย
- เป็นบริษัทแรกที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อสีน้ำเงิน เพื่อพัฒนาการรีไซเคิลขวด PET ให้ได้ 50,000 ล้านขวดทั่วโลกต่อปีภายในปี 2568 ประกอบด้วยเงินกู้ไม่ด้อยสิทธิ (Senior loan) จำนวน 300 ล้านเหรียญสหรัฐจาก ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) และ Deutsche Investitions-und Entwicklungsgesellschaft (DEG)
- เข้าซื้อกิจการรีไซเคิลในประเทศฝรั่งเศส และขยายกำลังการผลิตของสองโรงงานในประเทศโปแลนด์ เมื่อรวมโรงงานรีไซเคิลใรทวีปยุโรปทั้งหมด ภายในปี 2566 บริษัทจะสามารถรีไซเคิลขวด PET ที่ผ่านการใช้งานแล้วได้ถึง 10,000 ล้านขวดต่อปี
2563
- เสร็จสิ้นการเข้าซื้อสินทรัพย์เอทิลีนออกไซด์และโพรพิลีนออกไซด์แบบบูรณาการของบริษัท Huntsman มูลค่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ถือเป็นการเข้าซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดของอินโดรามา เวนเจอร์ส
- เริ่มการผลิตโอเลฟินส์เชิงพาณิชย์ ที่โรงงาน Indorama Ventures Olefins รัฐหลุยส์เซียนา สหรัฐอเมริก
- รีไซเคิลขวด PET ครบ 50,000 ล้านขวด นับตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ธุรกิจรีไซเคิลในปี 2554 ช่วยลดการใช้น้ำมันดิบไปกว่า 3 ล้านบาร์เรล และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน 1.65 ล้านตัน
2564
- เดินหน้าต่อยอดแบรนด์เพื่อความยั่งยืน “Deja™” ด้วย carbon neutral PET
- ไอวีแอลเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ลงทุนในบัญชีเงินฝากสีเขียว (Green Deposit) เพื่อสนับสนุนโครงการที่ส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือ ESG (Environmental, Social and Governance) อันจะเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม
- เข้าซื้อโรงงานรีไซเคิล PET ของบริษัท CarbonLite หนึ่งในผู้ผลิตเม็ดพลาสติก PET รีไซเคิล (rPET) สำหรับบรรจุภัณฑ์อาหารรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
- เพิ่มหน่วยการผลิตใหม่ในธุรกิจแนฟทาเลท ขึ้นแท่นผู้ผลิตและจำหน่าย PNDA รายใหญ่ที่สุดในโลก
- ประกาศสร้างโรงงานรีไซเคิล PET แห่งใหม่ใน ประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2566
- ประกาศข้อตกลงการเข้าซื้อบริษัท Oxiteno ในประเทศบราซิล สร้างธุรกิจที่เป็นเอกลักษณ์ในอุตสาหกรรมสารลดแรงตึงผิวมูลค่าเพิ่ม ด้วยโรงงาน 11 แห่งในประเทศบราซิล อุรุกวัย เม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา