ข้อมูลรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์
งบการเงินตรวจสอบปี2552และคำอธิบาย&บทวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ
ที่ IVL009/02/2010
25 กุมภาพันธ์ 2553
เรื่อง ขอนำส่งงบการเงินประจำปี (ตรวจสอบ) สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 ของบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด
(มหาชน) และคำอธิบายและบทวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ทางฝ่ายจัดการของบริษัท ขอนำส่งเอกสารดังต่อไปนี้
1. สำเนางบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะบริษัทประจำปี (ตรวจสอบ) สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 (ภาษาไทยและ
ภาษาอังกฤษ)
2. คำอธิบายและบทวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 และสำหรับรอบ
ไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ)
3. รายงานสรุปผลการดำเนินงาน ฟอร์ม 45-3 (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ)
ในฟอร์ม 45-3 ได้แสดงกำไรต่อหุ้น (ตามงบการเงินรวม) ของปี 2551 เท่ากับ 16.51 บาทต่อหุ้น ซึ่งคำนวณจากมูลค่าหุ้นที่ตราไว้
หุ้นละ 10 บาท และจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก กำไรต่อหุ้นของปี 2551 จะเท่ากับ 0.79 บาทต่อหุ้น หาก
คำนวณจากมูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้ว ณ สิ้นงวด มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ได้เปลี่ยนจากหุ้นละ
10 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาทในปี 2552
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายอาลก โลเฮีย)
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท
เลขานุการบริษัท
โทรศัพท์: +66 (0) 2661-6661
โทรสาร: +66 (0) 2661-6664
-1-
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน)
คำอธิบายและบทวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ
ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 ปี 2552 และสำหรับปี 2552
จุดเด่นของ IVL ในปี 2552
- ผลการดำเนินงานรวมของบริษัทในปี 2552
- ยอดขายสุทธิสำหรับปี 2552 เท่ากับ 79,994 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 50%
- กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) สำหรับปี 2552 เท่ากับ 10,636 ล้าน
บาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 177%
- กำไรก่อนภาษีเงินได้ เท่ากับ 6,573 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 107%
- *กำไรสุทธิหลังภาษีและผู้ถือหุ้นส่วนน้อย เท่ากับ 5,346 ล้านบาท (รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของ IRP ใน
กรณีที่หลังการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ต่อผู้ถือหุ้นฯ สัดส่วนการถือหุ้นของ IVL ใน IRP เพิ่มขึ้นจาก 69.29%
เป็น 99.08% ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2553) คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 68%
- ประโยชน์จากบริโภค PTA ภายในกลุ่มบริษัท ซึ่ง PTA ถือเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเม็ดพลาสติก PET และเส้นใย
และเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์
- อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 15.4% จาก 9.7%
- อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA margin) เพิ่มขึ้นเป็น 13.3% จาก
7.2%
- อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 7.5% จาก 5.9%
- กำไรต่อหุ้นเท่ากับ 1.44 บาท และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเท่ากับ 30%
- กระแสเงินสดอิสระก่อนรายจ่ายฝ่ายทุนเพิ่มขึ้น 7,404 ล้านบาท และกระแสเงินสดอิสระหลังรายจ่ายฝ่ายทุนเพิ่มขึ้น
3,454 ล้านบาท
- หนี้สินสุทธิลดลง 3,152 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราหนี้สินสุทธิต่อเงินทุนของบริษัท (net gearing ratio) เป็น 63% (ก่อน
รวมเงินรับจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ที่จะได้รับในไตรมาส 1 ของปี 2553) ซึ่งต่ำกว่า 70% ในปี 2551
- โครงการก่อสร้าง/การขยายฐานการผลิตสำคัญที่แล้วเสร็จในปี
- โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก PET ของ AlphaPET ซึ่งมีกำลังการผลิต 432,000 ตันต่อปี ตั้งอยู่ที่
เมืองดีคาทอร์ รัฐอลาบาม่า สหรัฐอเมริกา โดยบริษัทได้เริ่มดำเนินงานสายการผลิตแรก ซึ่งมีกำลังการผลิต
216,000 ตันต่อปี ในเดือนตุลาคม 2552
-2-
- การกลับมาเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ของอินโดรามา โพลีเอสเตอร์ อินดัสตรี้ส์ ที่จังหวัดระยอง ซึ่งมีกำลัง
การผลิต 252,000 ตันต่อปี อันประกอบด้วยกำลังการผลิตเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ 144,000 ตันต่อปี
และกำลังการผลิตเม็ดพลาสติก PET 108,000 ตันต่อปี (ได้เปลี่ยนจากสายการผลิตโพลีเอสเตอร์เป็น
สายการผลิตเม็ดพลาสติก PET ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552)
ผลการดำเนินงานในปี 2552 นี้ ได้สะท้อนถึงการดำเนินงานเต็มปีของบริษัทย่อยต่างๆที่ได้ทำการควบรวมในปี 2551 ทั้งใน
ส่วนของธุรกิจ PTA เม็ดพลาสติก PET และเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ แม้ในสภาวะเศรษฐกิจถดถอยของปี 2552
ปริมาณความต้องการทั่วโลกในสินค้าของกลุ่มบริษัทยังมีการเติบโตในเชิงบวก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อย่างยิ่งต่อ
ผู้บริโภค เม็ดพลาสติก PET และเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ได้ถูกใช้เป็นส่วนประกอบในสินค้าจำเป็นทั่วไปเช่น
อาหาร เครื่องดื่ม และเสื้อผ้า ทางฝ่ายจัดการยังได้เน้นไปที่การลดต้นทุนจากการรวมตัวของธุรกิจ PTA การเพิ่มอัตราการใช้
กำลังการผลิตให้เต็มที่ และการใช้ประโชน์จากต้นทุนพลังงานที่ลดลง
*กำไรสุทธิหลังภาษีและผู้ถือหุ้นส่วนน้อยตามงบการเงิน (ตรวจสอบ) ของปี 2552 เท่ากับ 4,824 ล้านบาท
-3-
ผลการดำเนินงานรวมของ IVL ในปี 2552
การประกอบธุรกิจ
สรุปข้อมูลสำคัญในปี 2552 แยกตามกลุ่มธุรกิจของ IVL มีดังต่อไปนี้
ธุรกิจ PET มียอดขายเท่ากับ 44,456 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 9% จากปีที่แล้ว ส่งผลมาจากปริมาณขายเม็ดพลาสติก PET ที่
เพิ่มขึ้น 32% เป็น 1.02 ล้านตัน ราคาวัตถุดิบที่ลดลงส่งผลให้ราคาขายปรับตัวลดลง ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นมาจากการดำเนินงานทั้งปี
ของโรงงานในยุโรปที่บริษัทเข้าซื้อในเดือนมีนาคม 2551 รวมถึงอัตราการใช้กำลังการผลิตโดยรวมที่เพิ่มขึ้นเป็น 101% ธุรกิจ PET
มียอดขายคิดเป็น 55.6% ของยอดขายรวมของบริษัท และ EBITDA คิดเป็น 53.5% ของ EBITDA รวมของบริษัท
ธุรกิจเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ และเส้นใยจากขนสัตว์ มียอดขายเท่ากับ 11,668 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 87% จากปีที่
แล้ว ส่งผลมาจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น 199% ของเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์จากการกลับมาเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์
ของอินโดรามา โพลีเอสเตอร์ อินดัสตรี้ส์ ที่จังหวัดระยองในไตรมาสที่ 1 ของปี 2552 หลังจากที่บริษัทเข้าซื้อเมื่อวันที่ 30 กันยายน
2551 ธุรกิจเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ และเส้นใยจากขนสัตว์ มียอดขายคิดเป็น 14.6% ของยอดขายรวมของบริษัท และ
EBITDA คิดเป็น 12.7% ของ EBITDA รวมของบริษัท
ธุรกิจ PTA มียอดขาย(สุทธิจากการขายภายในกลุ่มบริษัท)เท่ากับ 23,870 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 318% จากปีที่แล้ว
ยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาจากการดำเนินงานทั้งปีของโรงงาน PTA ทั้งสามแห่งที่บริษัทเข้าซื้อในปี 2551 รวมถึงอัตราการใช้กำลังการ
ผลิตโดยรวมที่สูงถึง 100% จากยอดขายรวมทั้งหมดของธุรกิจ 48% เป็นการขายภายในกลุ่มให้กับธุรกิจ PET และธุรกิจเส้นใยและ
เส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ ธุรกิจ PTA มียอดขายคิดเป็น 29.8% ของยอดขายรวมของบริษัท และ EBITDA คิดเป็น 33.8% ของ
EBITDA รวมของบริษัท
ผลการดำเนินงาน
ยอดขายรวมของ IVL ในปี 2552 เท่ากับ 79,994 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 50% จากปีก่อนหน้า ซึ่งส่งผลมาจากปริมาณขายที่
เพิ่มขึ้นของทั้งเม็ดพลาสติก PET เส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ และ PTA ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวสะท้อนถึงผลการ
ดำเนินงานทั้งปีของส่วนของธุรกิจทั้งสามอย่างในไทยและยุโรปที่บริษัทเข้าซื้อระหว่างปี 2551 ธุรกิจที่เข้าซื้อทั้งหมดได้ถูก
ดำเนินงานเต็มกำลังการผลิต ณ สิ้นไตรมาสที่ 4 ปี 2552
EBITDA เพิ่มสูงขึ้นเป็น 10,636 ล้านบาทในปี 2552 คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 177% จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนที่ลดลง EBITDA
margin ได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากจาก 7.2% ในปี 2551 เป็น 13.3% ในปี 2552 EBITDA ที่สูงมากในปี 2552 นี้ส่งผลให้กระแสเงิน
สดอิสระหลังรายจ่ายฝ่ายทุน (free cash flow after CAPEX) เพิ่มขึ้น 3,454 ล้านบาท ซึ่งได้ถูกนำไปใช้ในการชำระหนี้ หนี้สินสุทธิ
ในปี 2552 ลดลง 3,315 ล้านบาท สุทธิจากเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นในการลงทุนในโครงการ AlphaPET และส่วนขยายและปรับปรุงของอิน
โดรามา โพลีเอสเตอร์ อินดัสตรี้ส์ ที่จังหวัดระยอง
-4-
กำไรก่อนภาษีเงินได้ของบริษัทในปี 2552 เท่ากับ 6,573 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 107% จากปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากยอดขายที่สูงและกำไร
จากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ภาษีเงินได้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 554 ล้านบาท เปรียบเทียบกับ 53 ล้านบาทในปีก่อน และคิดเป็น 8.4% ของ
กำไรก่อนภาษีเงินได้ ภาษีเงินได้ในปีนี้โดยหลักมาจากกำไรของบริษัทย่อยในสหรัฐอเมริกาและยุโรป
กำไรสุทธิหลังหักส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 4,824 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2,656 ล้านบาทในปี 2551 คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น
82% ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเพิ่มจาก 467 ล้านบาทเป็น 1,195 ล้านบาทในปี 2552 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย
ของบริษัท อินโดรา โพลีเมอร์ส จำกัด (มหาชน) "IRP" และบริษัท ทีพีที ปิโตรเคมีคอลส์ จำกัด (มหาชน)
ในการเปรียบเทียบกับผลดำเนินงานในอนาคต เมื่อบริษัทได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน IRP จาก 69.29% เป็น 99.08% ภายหลังการ
แลกหุ้นสิ้นสุดลง ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2553 บริษัทจะมีกำไรสุทธิหลังหักส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 5,346 ล้านบาท คิด
เป็นอัตราเพิ่มขึ้น 68% จากปี 2551
รายจ่ายฝ่ายทุนและหนี้สินสุทธิ
รายจ่ายฝ่ายทุน (CAPEX) ในปี 2552 เท่ากับ 3,785 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก PET ของ
AlphaPet จำนวน 2,479 ล้านบาท และการขยายและปรับปรุงโรงงานอินโดรามา โพลีเอสเตอร์ อินดัสตรี้ส์ ที่จังหวัดระยอง จำนวน
665 ล้านบาท รายจ่ายฝ่ายทุนทั้งหมดในปี 2552 แบ่งได้เป็นรายจ่ายสำหรับการลงทุนและขยายกิจการจำนวน 3,478 ล้านบาท และ
รายจ่ายสำหรับการบำรุงรักษาจำนวน 307 ล้านบาท รายจ่ายฝ่ายทุนทั้งหมดในปี 2551 เท่ากับ 4,856 ล้านบาท ซึ่งมาจากโครงการ
ก่อสร้างโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก PET ของ AlphaPet จำนวน 3,466 ล้านบาท สินทรัพย์ทั้งหมด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552
เท่ากับ 74,260 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ 49,505 ล้านบาท หรือ 67% มาจากที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์
ณ สิ้นปี 2552 บริษัทมีหนี้สินสุทธิทั้งหมด 37,540 ล้านบาท ลดลง 8% จากปีที่แล้ว บริษัทได้ชำระคืนเงินกู้จาก EBITDA ที่สูงในปี
นี้และกระแสเงินสดอิสระหลังรายจ่ายฝ่ายทุน อัตราหนี้สินสุทธิต่อเงินทุนของบริษัท (net gearing ratio) ลดลงจาก 70% ในปี 2551
เป็น 63% ณ สิ้นปี หนี้สินสุทธิของบริษัทประกอบด้วย
เงินเบิกเกินบัญชีธนาคารและเงินกู้ยืมระยะสั้น 10,004 ล้านบาท
เงินกู้ยืมระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 4,692 ล้านบาท
เงินกู้ยืมระยะยาวสุทธิจากส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 25,404 ล้านบาท
รวม 40,100 ล้านบาท
หัก เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 2,560 ล้านบาท
หนี้สินสุทธิ 37,540 ล้านบาท
-5-
จุดเด่นของ IVL ในไตรมาสที่ 4 ปี 2552
- ผลการดำเนินงานรวมของบริษัทในไตรมาสที่ 4 ปี 2552
- ยอดขายสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2552 เท่ากับ 20,922 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสที่ 3 ปี
2552 และ 25% จากไตรมาสที่ 4 ปี 2551
- กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) สำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2552 เท่ากับ
2,610 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 26% จากไตรมาสที่ 3 ปี 2552 และ 668% จากไตรมาสที่ 4 ปี 2551
- กำไรก่อนภาษีเงินได้สำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2552 เท่ากับ 1,709 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 94% จาก
ไตรมาสที่ 3 ปี 2552 และจากขาดทุนสุทธิในไตรมาสที่ 4 ปี 2551
- กำไรสุทธิหลังภาษีและผู้ถือหุ้นส่วนน้อยสำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2552 เท่ากับ 1,380 ล้านบาท คิดเป็นอัตรา
เพิ่มขึ้น 141% จากไตรมาสที่ 3 ปี 2552 และจากขาดทุนสุทธิในไตรมาสที่ 4 ปี 2551
- ประโยชน์จากบริโภค PTA ภายในกลุ่มบริษัท ซึ่ง PTA ถือเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเม็ดพลาสติก PET และเส้นใย
และเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์
- อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 13.7% จาก 11.8% ในไตรมาสที่ 3 ปี 2552 และ 3.6% ในไตรมาสที่ 4 ปี 2551
- อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA margin) เพิ่มขึ้นเป็น 12.5% จาก
10.1% ในไตรมาสที่ 3 ปี 2552 และ 2.0% ในไตรมาสที่ 4 ปี 2551
- อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 7.5% จาก 3.8% ในไตรมาสที่ 3 ปี 2552 และขาดทุนสุทธิในไตรมาสที่ 4 ปี 2551
- กำไรต่อหุ้นเฉลี่ยต่อปีเท่ากับ 1.65 บาท และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเท่ากับ 31.2% ในไตรมาสนี้
ธุรกิจ PET มียอดขายเท่ากับ 11,614 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสที่ 3 ปี 2552 ส่งผลมาจากปริมาณขายที่
เพิ่มขึ้น 7% โครงการ AlphaPET ได้เริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์สายการผลิตแรกในเดือนตุลาคม 2552 ธุรกิจ PET มียอดขาย
คิดเป็น 55.5% ของยอดขายรวมของบริษัท และ EBITDA คิดเป็น 44.6% ของ EBITDA รวมของบริษัท
ธุรกิจเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ และเส้นใยจากขนสัตว์ มียอดขายเท่ากับ 3,622 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 14%
จากไตรมาสที่ 3 ปี 2552 ส่งผลมาจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น 13% ของเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์จากการเพิ่มขึ้นของ
อัตราการใช้กำลังการผลิต และการเปลี่ยนพลังงานที่ใช้จากน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นก๊าซธรรมชาติของอินโดรามา โพลีเอสเตอร์
อินดัสตรี้ส์ ที่จังหวัดระยอง นอกจากนี้ ปริมาณขายของเส้นใยจากขนสัตว์ได้เพิ่มขึ้น 27% จากไตรมาสที่แล้ว ส่งผลให้ทั้ง
กำไรและอัตรากำไรของกลุ่มธุรกิจในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น ธุรกิจเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ และเส้นใยจากขนสัตว์ มี
ยอดขายคิดเป็น 18.8% ของยอดขายรวมของบริษัท และ EBITDA คิดเป็น 19.4% ของ EBITDA รวมของบริษัท
ธุรกิจ PTA มียอดขาย(สุทธิจากการขายภายในกลุ่มบริษัท) เท่ากับ 5,685 ล้านบาท ลดลง 9% จากไตรมาสที่แล้ว ยอดขาย
(สุทธิจากการขายภายในกลุ่มบริษัท)ลดลงจากการบริโภคภายในกลุ่มที่สูงขึ้นจาก 48% เป็น 52% ธุรกิจ PTA มียอดขายคิด
เป็น 25.7% ของยอดขายรวมของบริษัท และ EBITDA คิดเป็น 36.0% ของ EBITDA รวมของบริษัท
-6-
ข้อมูลทางการเงิน
- ข้อมูลทางการเงินรวม
- ข้อมูลจำแนกตามกลุ่มธุรกิจ
- งบกำไรขาดทุน และงบดุลรวมของบริษัท
-7-
ข้อมูลทางการเงินรวม
ตารางที่ 1
IVL : รายได้
ไตรมาส 4/2552 ปี 2552
เทียบกับ เทียบกับ
ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส
4/2552 3/2552 4/2551 3/2552 4/2551 ปี 2552 ปี 2551 ปี 2551
รายได้รวม
ล้านบาท 20,922 20,422 16,738 2% 25% 79,994 53,332 50%
ล้านเหรียญสหรัฐ 628 602 481 4% 31% 2,331 1,600 46%
สัดส่วนรายได้แยกตามภูมิภาค
ไทย 16% 17% 14% 15% 11%
เอเชีย (ไม่รวมไทย) 24% 21% 19% 24% 11%
อเมริกาเหนือ 14% 13% 20% 16% 24%
ยุโรป 37% 39% 41% 38% 48%
อื่นๆ 9% 10% 7% 8% 7%
ตารางที่ 2
IVL : ผลประกอบการสำคัญและอัตรากำไร
ไตรมาส 4/2552 ปี 2552
เทียบกับ เทียบกับ
ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส
4/2552 3/2552 4/2551 3/2552 4/2551 ปี 2552 ปี 2551 ปี 2551
EBITDA
ล้านบาท 2,610 2,067 340 26% 668% 10,636 3,838 177%
ล้านเหรียญสหรัฐ 78 61 10 29% 702% 310 115 169%
อัตรากำไร (%) 12.5% 10.1% 2.0% 13.3% 7.2%
กำไร (ขาดทุน) ก่อนภาษีเงินได้
ล้านบาท 1,709 881 (1,462) 94% n/a 6,573 3,176 107%
ล้านเหรียญสหรัฐ 51 26 (42) 97% n/a 192 95 101%
อัตรากำไร (%) 8.2% 4.3% -8.7% 8.2% 6.0%
* กำไร (ขาดทุน) สุทธิหลังภาษีและส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย
ล้านบาท 1,380 573 (1,179) 141% n/a *5,346 *3,182 68%
ล้านเหรียญสหรัฐ 41 17 (34) 145% n/a 156 95 64%
อัตรากำไร (%) 6.6% 2.8% -7.0% 6.0% 5.0%
* รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของ IRP ในกรณีที่สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทใน IRP เพิ่มขึ้นจาก 69.29% เป็น 99.08% ภายหลังการแลกหุ้นสิ้นสุด
ลง ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์
-8-
ตารางที่ 3
IVL : กระแสเงินสด
ปี 2552
เทียบกับ
หน่วย : ล้านบาท ปี 2552 ปี 2551 ปี 2551
EBITDA 10,636 3,838 177%
การเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์ดำเนินงานสุทธิและอื่นๆ (1,084) (1,290) -16%
ค่าใช้จ่ายทางการเงินสุทธิ (1,884) (1,302) 45%
ภาษีเงินได้ (264) (28) 843%
กระแสเงินสดอิสระก่อนรายจ่ายฝ่ายทุน 7,404 1,218 508%
รายจ่ายฝ่ายทุน (3,785) (4,856) -22%
เงินสดสุทธิจากการ (ซื้อ) ขายบริษัทย่อย (165) (14,194) -99%
กระแสเงินสดอิสระหลังรายจ่ายฝ่ายทุน 3,454 (17,832) n/a
เงินปันผล (182) (136) 34%
เงินสดรับจากการออกหุ้นเพิ่มทุน 0 4,025 -100%
การเปลี่ยนแปลงในหนี้สินสุทธิ (3,272) 13,943 n/a
ข้อสังเกต: ข้อมูลทางการเงินรวมภายหลังการตัดรายการระหว่างกันในบริษัทในกลุ่ม (หรือระหว่างกลุ่มธุรกิจ) ทำให้อาจไม่เท่ากับยอดรวมของแต่ละ
ส่วนธุรกิจ
ตารางที่ 4
IVL : อัตราส่วนทางการเงิน
ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส
4/2552 3/2552 4/2551 ปี 2552 ปี 2551
อัตราส่วนสภาพคล่อง (เท่า) 0.9 0.9 0.8 0.9 0.8
อัตราหนี้สินสุทธิต่อเงินทุนของบริษัท (%) 63% 63% 70% 63% 70%
* อัตราหนี้สินในการดำเนินงานสุทธิต่อเงินทุนของบริษัท (%) 61% 60% 67% 60% 67%
อัตราความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย (เท่า) 7.4 5.6 0.5 6.7 2.7
** อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (%) 31.2% 15.7% -47.9% 30.0% 26.0%
*** อัตราผลตอบแทนต่อเงินทุนของบริษัท (%) 12.8% 8.8% -4.0% 13.8% 6.7%
* คิดจากหนี้สินในการดำเนินงานสุทธิ ซึ่งไม่รวมหนี้สินของโครงการลงทุนที่ยังไม่ก่อให้เกิดรายได้และกำไรแก่กิจการ
** กำไรสุทธิก่อนหักผู้ถือหุ้นส่วนน้อยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ย
*** กำไรจากการดำเนินงาน (Operating income) ต่อเงินทุนของบริษัท (หนี้สินในการดำเนินงานสุทธิบวกส่วนของผู้ถือหุ้น)
-9-
ธุรกิจ PET
ตารางที่ 5
ธุรกิจ PET : กำลังการผลิตและอัตราการใช้กำลังการผลิต (%)
ไตรมาส 4/2552 ปี 2552
เทียบกับ เทียบกับ
ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส
4/2552 3/2552 4/2551 3/2552 4/2551 ปี 2552 ปี 2551 ปี 2551
กำลังการผลิต (ตัน) 293,500 239,500 239,500 23% 23% 1,012,000 869,250 16%
ปริมาณผลิต (ตัน) 280,011 248,946 216,778 12% 29% 1,026,582 804,190 28%
อัตราการใช้กำลังการผลิต (%) 95% 104% 91% 101% 93%
ตารางที่ 6
ธุรกิจ PET : รายได้
ไตรมาส 4/2552 ปี 2552
เทียบกับ เทียบกับ
ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส
4/2552 3/2552 4/2551 3/2552 4/2551 ปี 2552 ปี 2551 ปี 2551
รายได้รวม
ล้านบาท 11,614 10,989 10,053 6% 16% 44,456 40,969 9%
ล้านเหรียญสหรัฐ 349 324 289 8% 21% 1,295 1,229 5%
รายได้ (ล้านบาท) ที่เพิ่มขึ้นมาจาก
การเปลี่ยนแปลงของปริมาณ 7% 18% 32%
การเปลี่ยนแปลงของราคา -1% -2% -18%
สัดส่วนรายได้แยกตามภูมิภาค
ไทย 7% 7% 6% 6% 6%
เอเชีย (ไม่รวมไทย) 4% 3% 3% 3% 3%
อเมริกาเหนือ 24% 23% 30% 27% 30%
(ยังมีต่อ)
25 กุมภาพันธ์ 2553
เรื่อง ขอนำส่งงบการเงินประจำปี (ตรวจสอบ) สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 ของบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด
(มหาชน) และคำอธิบายและบทวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ทางฝ่ายจัดการของบริษัท ขอนำส่งเอกสารดังต่อไปนี้
1. สำเนางบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะบริษัทประจำปี (ตรวจสอบ) สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 (ภาษาไทยและ
ภาษาอังกฤษ)
2. คำอธิบายและบทวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 และสำหรับรอบ
ไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ)
3. รายงานสรุปผลการดำเนินงาน ฟอร์ม 45-3 (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ)
ในฟอร์ม 45-3 ได้แสดงกำไรต่อหุ้น (ตามงบการเงินรวม) ของปี 2551 เท่ากับ 16.51 บาทต่อหุ้น ซึ่งคำนวณจากมูลค่าหุ้นที่ตราไว้
หุ้นละ 10 บาท และจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก กำไรต่อหุ้นของปี 2551 จะเท่ากับ 0.79 บาทต่อหุ้น หาก
คำนวณจากมูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้ว ณ สิ้นงวด มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ได้เปลี่ยนจากหุ้นละ
10 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาทในปี 2552
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายอาลก โลเฮีย)
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท
เลขานุการบริษัท
โทรศัพท์: +66 (0) 2661-6661
โทรสาร: +66 (0) 2661-6664
-1-
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน)
คำอธิบายและบทวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ
ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 ปี 2552 และสำหรับปี 2552
จุดเด่นของ IVL ในปี 2552
- ผลการดำเนินงานรวมของบริษัทในปี 2552
- ยอดขายสุทธิสำหรับปี 2552 เท่ากับ 79,994 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 50%
- กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) สำหรับปี 2552 เท่ากับ 10,636 ล้าน
บาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 177%
- กำไรก่อนภาษีเงินได้ เท่ากับ 6,573 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 107%
- *กำไรสุทธิหลังภาษีและผู้ถือหุ้นส่วนน้อย เท่ากับ 5,346 ล้านบาท (รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของ IRP ใน
กรณีที่หลังการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ต่อผู้ถือหุ้นฯ สัดส่วนการถือหุ้นของ IVL ใน IRP เพิ่มขึ้นจาก 69.29%
เป็น 99.08% ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2553) คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 68%
- ประโยชน์จากบริโภค PTA ภายในกลุ่มบริษัท ซึ่ง PTA ถือเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเม็ดพลาสติก PET และเส้นใย
และเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์
- อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 15.4% จาก 9.7%
- อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA margin) เพิ่มขึ้นเป็น 13.3% จาก
7.2%
- อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 7.5% จาก 5.9%
- กำไรต่อหุ้นเท่ากับ 1.44 บาท และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเท่ากับ 30%
- กระแสเงินสดอิสระก่อนรายจ่ายฝ่ายทุนเพิ่มขึ้น 7,404 ล้านบาท และกระแสเงินสดอิสระหลังรายจ่ายฝ่ายทุนเพิ่มขึ้น
3,454 ล้านบาท
- หนี้สินสุทธิลดลง 3,152 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราหนี้สินสุทธิต่อเงินทุนของบริษัท (net gearing ratio) เป็น 63% (ก่อน
รวมเงินรับจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ที่จะได้รับในไตรมาส 1 ของปี 2553) ซึ่งต่ำกว่า 70% ในปี 2551
- โครงการก่อสร้าง/การขยายฐานการผลิตสำคัญที่แล้วเสร็จในปี
- โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก PET ของ AlphaPET ซึ่งมีกำลังการผลิต 432,000 ตันต่อปี ตั้งอยู่ที่
เมืองดีคาทอร์ รัฐอลาบาม่า สหรัฐอเมริกา โดยบริษัทได้เริ่มดำเนินงานสายการผลิตแรก ซึ่งมีกำลังการผลิต
216,000 ตันต่อปี ในเดือนตุลาคม 2552
-2-
- การกลับมาเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ของอินโดรามา โพลีเอสเตอร์ อินดัสตรี้ส์ ที่จังหวัดระยอง ซึ่งมีกำลัง
การผลิต 252,000 ตันต่อปี อันประกอบด้วยกำลังการผลิตเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ 144,000 ตันต่อปี
และกำลังการผลิตเม็ดพลาสติก PET 108,000 ตันต่อปี (ได้เปลี่ยนจากสายการผลิตโพลีเอสเตอร์เป็น
สายการผลิตเม็ดพลาสติก PET ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552)
ผลการดำเนินงานในปี 2552 นี้ ได้สะท้อนถึงการดำเนินงานเต็มปีของบริษัทย่อยต่างๆที่ได้ทำการควบรวมในปี 2551 ทั้งใน
ส่วนของธุรกิจ PTA เม็ดพลาสติก PET และเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ แม้ในสภาวะเศรษฐกิจถดถอยของปี 2552
ปริมาณความต้องการทั่วโลกในสินค้าของกลุ่มบริษัทยังมีการเติบโตในเชิงบวก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อย่างยิ่งต่อ
ผู้บริโภค เม็ดพลาสติก PET และเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ได้ถูกใช้เป็นส่วนประกอบในสินค้าจำเป็นทั่วไปเช่น
อาหาร เครื่องดื่ม และเสื้อผ้า ทางฝ่ายจัดการยังได้เน้นไปที่การลดต้นทุนจากการรวมตัวของธุรกิจ PTA การเพิ่มอัตราการใช้
กำลังการผลิตให้เต็มที่ และการใช้ประโชน์จากต้นทุนพลังงานที่ลดลง
*กำไรสุทธิหลังภาษีและผู้ถือหุ้นส่วนน้อยตามงบการเงิน (ตรวจสอบ) ของปี 2552 เท่ากับ 4,824 ล้านบาท
-3-
ผลการดำเนินงานรวมของ IVL ในปี 2552
การประกอบธุรกิจ
สรุปข้อมูลสำคัญในปี 2552 แยกตามกลุ่มธุรกิจของ IVL มีดังต่อไปนี้
ธุรกิจ PET มียอดขายเท่ากับ 44,456 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 9% จากปีที่แล้ว ส่งผลมาจากปริมาณขายเม็ดพลาสติก PET ที่
เพิ่มขึ้น 32% เป็น 1.02 ล้านตัน ราคาวัตถุดิบที่ลดลงส่งผลให้ราคาขายปรับตัวลดลง ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นมาจากการดำเนินงานทั้งปี
ของโรงงานในยุโรปที่บริษัทเข้าซื้อในเดือนมีนาคม 2551 รวมถึงอัตราการใช้กำลังการผลิตโดยรวมที่เพิ่มขึ้นเป็น 101% ธุรกิจ PET
มียอดขายคิดเป็น 55.6% ของยอดขายรวมของบริษัท และ EBITDA คิดเป็น 53.5% ของ EBITDA รวมของบริษัท
ธุรกิจเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ และเส้นใยจากขนสัตว์ มียอดขายเท่ากับ 11,668 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 87% จากปีที่
แล้ว ส่งผลมาจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น 199% ของเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์จากการกลับมาเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์
ของอินโดรามา โพลีเอสเตอร์ อินดัสตรี้ส์ ที่จังหวัดระยองในไตรมาสที่ 1 ของปี 2552 หลังจากที่บริษัทเข้าซื้อเมื่อวันที่ 30 กันยายน
2551 ธุรกิจเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ และเส้นใยจากขนสัตว์ มียอดขายคิดเป็น 14.6% ของยอดขายรวมของบริษัท และ
EBITDA คิดเป็น 12.7% ของ EBITDA รวมของบริษัท
ธุรกิจ PTA มียอดขาย(สุทธิจากการขายภายในกลุ่มบริษัท)เท่ากับ 23,870 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 318% จากปีที่แล้ว
ยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาจากการดำเนินงานทั้งปีของโรงงาน PTA ทั้งสามแห่งที่บริษัทเข้าซื้อในปี 2551 รวมถึงอัตราการใช้กำลังการ
ผลิตโดยรวมที่สูงถึง 100% จากยอดขายรวมทั้งหมดของธุรกิจ 48% เป็นการขายภายในกลุ่มให้กับธุรกิจ PET และธุรกิจเส้นใยและ
เส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ ธุรกิจ PTA มียอดขายคิดเป็น 29.8% ของยอดขายรวมของบริษัท และ EBITDA คิดเป็น 33.8% ของ
EBITDA รวมของบริษัท
ผลการดำเนินงาน
ยอดขายรวมของ IVL ในปี 2552 เท่ากับ 79,994 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 50% จากปีก่อนหน้า ซึ่งส่งผลมาจากปริมาณขายที่
เพิ่มขึ้นของทั้งเม็ดพลาสติก PET เส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ และ PTA ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวสะท้อนถึงผลการ
ดำเนินงานทั้งปีของส่วนของธุรกิจทั้งสามอย่างในไทยและยุโรปที่บริษัทเข้าซื้อระหว่างปี 2551 ธุรกิจที่เข้าซื้อทั้งหมดได้ถูก
ดำเนินงานเต็มกำลังการผลิต ณ สิ้นไตรมาสที่ 4 ปี 2552
EBITDA เพิ่มสูงขึ้นเป็น 10,636 ล้านบาทในปี 2552 คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 177% จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนที่ลดลง EBITDA
margin ได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากจาก 7.2% ในปี 2551 เป็น 13.3% ในปี 2552 EBITDA ที่สูงมากในปี 2552 นี้ส่งผลให้กระแสเงิน
สดอิสระหลังรายจ่ายฝ่ายทุน (free cash flow after CAPEX) เพิ่มขึ้น 3,454 ล้านบาท ซึ่งได้ถูกนำไปใช้ในการชำระหนี้ หนี้สินสุทธิ
ในปี 2552 ลดลง 3,315 ล้านบาท สุทธิจากเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นในการลงทุนในโครงการ AlphaPET และส่วนขยายและปรับปรุงของอิน
โดรามา โพลีเอสเตอร์ อินดัสตรี้ส์ ที่จังหวัดระยอง
-4-
กำไรก่อนภาษีเงินได้ของบริษัทในปี 2552 เท่ากับ 6,573 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 107% จากปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากยอดขายที่สูงและกำไร
จากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ภาษีเงินได้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 554 ล้านบาท เปรียบเทียบกับ 53 ล้านบาทในปีก่อน และคิดเป็น 8.4% ของ
กำไรก่อนภาษีเงินได้ ภาษีเงินได้ในปีนี้โดยหลักมาจากกำไรของบริษัทย่อยในสหรัฐอเมริกาและยุโรป
กำไรสุทธิหลังหักส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 4,824 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2,656 ล้านบาทในปี 2551 คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น
82% ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเพิ่มจาก 467 ล้านบาทเป็น 1,195 ล้านบาทในปี 2552 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย
ของบริษัท อินโดรา โพลีเมอร์ส จำกัด (มหาชน) "IRP" และบริษัท ทีพีที ปิโตรเคมีคอลส์ จำกัด (มหาชน)
ในการเปรียบเทียบกับผลดำเนินงานในอนาคต เมื่อบริษัทได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน IRP จาก 69.29% เป็น 99.08% ภายหลังการ
แลกหุ้นสิ้นสุดลง ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2553 บริษัทจะมีกำไรสุทธิหลังหักส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 5,346 ล้านบาท คิด
เป็นอัตราเพิ่มขึ้น 68% จากปี 2551
รายจ่ายฝ่ายทุนและหนี้สินสุทธิ
รายจ่ายฝ่ายทุน (CAPEX) ในปี 2552 เท่ากับ 3,785 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก PET ของ
AlphaPet จำนวน 2,479 ล้านบาท และการขยายและปรับปรุงโรงงานอินโดรามา โพลีเอสเตอร์ อินดัสตรี้ส์ ที่จังหวัดระยอง จำนวน
665 ล้านบาท รายจ่ายฝ่ายทุนทั้งหมดในปี 2552 แบ่งได้เป็นรายจ่ายสำหรับการลงทุนและขยายกิจการจำนวน 3,478 ล้านบาท และ
รายจ่ายสำหรับการบำรุงรักษาจำนวน 307 ล้านบาท รายจ่ายฝ่ายทุนทั้งหมดในปี 2551 เท่ากับ 4,856 ล้านบาท ซึ่งมาจากโครงการ
ก่อสร้างโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก PET ของ AlphaPet จำนวน 3,466 ล้านบาท สินทรัพย์ทั้งหมด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552
เท่ากับ 74,260 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ 49,505 ล้านบาท หรือ 67% มาจากที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์
ณ สิ้นปี 2552 บริษัทมีหนี้สินสุทธิทั้งหมด 37,540 ล้านบาท ลดลง 8% จากปีที่แล้ว บริษัทได้ชำระคืนเงินกู้จาก EBITDA ที่สูงในปี
นี้และกระแสเงินสดอิสระหลังรายจ่ายฝ่ายทุน อัตราหนี้สินสุทธิต่อเงินทุนของบริษัท (net gearing ratio) ลดลงจาก 70% ในปี 2551
เป็น 63% ณ สิ้นปี หนี้สินสุทธิของบริษัทประกอบด้วย
เงินเบิกเกินบัญชีธนาคารและเงินกู้ยืมระยะสั้น 10,004 ล้านบาท
เงินกู้ยืมระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 4,692 ล้านบาท
เงินกู้ยืมระยะยาวสุทธิจากส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 25,404 ล้านบาท
รวม 40,100 ล้านบาท
หัก เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 2,560 ล้านบาท
หนี้สินสุทธิ 37,540 ล้านบาท
-5-
จุดเด่นของ IVL ในไตรมาสที่ 4 ปี 2552
- ผลการดำเนินงานรวมของบริษัทในไตรมาสที่ 4 ปี 2552
- ยอดขายสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2552 เท่ากับ 20,922 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสที่ 3 ปี
2552 และ 25% จากไตรมาสที่ 4 ปี 2551
- กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) สำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2552 เท่ากับ
2,610 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 26% จากไตรมาสที่ 3 ปี 2552 และ 668% จากไตรมาสที่ 4 ปี 2551
- กำไรก่อนภาษีเงินได้สำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2552 เท่ากับ 1,709 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 94% จาก
ไตรมาสที่ 3 ปี 2552 และจากขาดทุนสุทธิในไตรมาสที่ 4 ปี 2551
- กำไรสุทธิหลังภาษีและผู้ถือหุ้นส่วนน้อยสำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2552 เท่ากับ 1,380 ล้านบาท คิดเป็นอัตรา
เพิ่มขึ้น 141% จากไตรมาสที่ 3 ปี 2552 และจากขาดทุนสุทธิในไตรมาสที่ 4 ปี 2551
- ประโยชน์จากบริโภค PTA ภายในกลุ่มบริษัท ซึ่ง PTA ถือเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเม็ดพลาสติก PET และเส้นใย
และเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์
- อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 13.7% จาก 11.8% ในไตรมาสที่ 3 ปี 2552 และ 3.6% ในไตรมาสที่ 4 ปี 2551
- อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA margin) เพิ่มขึ้นเป็น 12.5% จาก
10.1% ในไตรมาสที่ 3 ปี 2552 และ 2.0% ในไตรมาสที่ 4 ปี 2551
- อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 7.5% จาก 3.8% ในไตรมาสที่ 3 ปี 2552 และขาดทุนสุทธิในไตรมาสที่ 4 ปี 2551
- กำไรต่อหุ้นเฉลี่ยต่อปีเท่ากับ 1.65 บาท และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเท่ากับ 31.2% ในไตรมาสนี้
ธุรกิจ PET มียอดขายเท่ากับ 11,614 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสที่ 3 ปี 2552 ส่งผลมาจากปริมาณขายที่
เพิ่มขึ้น 7% โครงการ AlphaPET ได้เริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์สายการผลิตแรกในเดือนตุลาคม 2552 ธุรกิจ PET มียอดขาย
คิดเป็น 55.5% ของยอดขายรวมของบริษัท และ EBITDA คิดเป็น 44.6% ของ EBITDA รวมของบริษัท
ธุรกิจเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ และเส้นใยจากขนสัตว์ มียอดขายเท่ากับ 3,622 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 14%
จากไตรมาสที่ 3 ปี 2552 ส่งผลมาจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น 13% ของเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์จากการเพิ่มขึ้นของ
อัตราการใช้กำลังการผลิต และการเปลี่ยนพลังงานที่ใช้จากน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นก๊าซธรรมชาติของอินโดรามา โพลีเอสเตอร์
อินดัสตรี้ส์ ที่จังหวัดระยอง นอกจากนี้ ปริมาณขายของเส้นใยจากขนสัตว์ได้เพิ่มขึ้น 27% จากไตรมาสที่แล้ว ส่งผลให้ทั้ง
กำไรและอัตรากำไรของกลุ่มธุรกิจในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น ธุรกิจเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ และเส้นใยจากขนสัตว์ มี
ยอดขายคิดเป็น 18.8% ของยอดขายรวมของบริษัท และ EBITDA คิดเป็น 19.4% ของ EBITDA รวมของบริษัท
ธุรกิจ PTA มียอดขาย(สุทธิจากการขายภายในกลุ่มบริษัท) เท่ากับ 5,685 ล้านบาท ลดลง 9% จากไตรมาสที่แล้ว ยอดขาย
(สุทธิจากการขายภายในกลุ่มบริษัท)ลดลงจากการบริโภคภายในกลุ่มที่สูงขึ้นจาก 48% เป็น 52% ธุรกิจ PTA มียอดขายคิด
เป็น 25.7% ของยอดขายรวมของบริษัท และ EBITDA คิดเป็น 36.0% ของ EBITDA รวมของบริษัท
-6-
ข้อมูลทางการเงิน
- ข้อมูลทางการเงินรวม
- ข้อมูลจำแนกตามกลุ่มธุรกิจ
- งบกำไรขาดทุน และงบดุลรวมของบริษัท
-7-
ข้อมูลทางการเงินรวม
ตารางที่ 1
IVL : รายได้
ไตรมาส 4/2552 ปี 2552
เทียบกับ เทียบกับ
ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส
4/2552 3/2552 4/2551 3/2552 4/2551 ปี 2552 ปี 2551 ปี 2551
รายได้รวม
ล้านบาท 20,922 20,422 16,738 2% 25% 79,994 53,332 50%
ล้านเหรียญสหรัฐ 628 602 481 4% 31% 2,331 1,600 46%
สัดส่วนรายได้แยกตามภูมิภาค
ไทย 16% 17% 14% 15% 11%
เอเชีย (ไม่รวมไทย) 24% 21% 19% 24% 11%
อเมริกาเหนือ 14% 13% 20% 16% 24%
ยุโรป 37% 39% 41% 38% 48%
อื่นๆ 9% 10% 7% 8% 7%
ตารางที่ 2
IVL : ผลประกอบการสำคัญและอัตรากำไร
ไตรมาส 4/2552 ปี 2552
เทียบกับ เทียบกับ
ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส
4/2552 3/2552 4/2551 3/2552 4/2551 ปี 2552 ปี 2551 ปี 2551
EBITDA
ล้านบาท 2,610 2,067 340 26% 668% 10,636 3,838 177%
ล้านเหรียญสหรัฐ 78 61 10 29% 702% 310 115 169%
อัตรากำไร (%) 12.5% 10.1% 2.0% 13.3% 7.2%
กำไร (ขาดทุน) ก่อนภาษีเงินได้
ล้านบาท 1,709 881 (1,462) 94% n/a 6,573 3,176 107%
ล้านเหรียญสหรัฐ 51 26 (42) 97% n/a 192 95 101%
อัตรากำไร (%) 8.2% 4.3% -8.7% 8.2% 6.0%
* กำไร (ขาดทุน) สุทธิหลังภาษีและส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย
ล้านบาท 1,380 573 (1,179) 141% n/a *5,346 *3,182 68%
ล้านเหรียญสหรัฐ 41 17 (34) 145% n/a 156 95 64%
อัตรากำไร (%) 6.6% 2.8% -7.0% 6.0% 5.0%
* รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของ IRP ในกรณีที่สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทใน IRP เพิ่มขึ้นจาก 69.29% เป็น 99.08% ภายหลังการแลกหุ้นสิ้นสุด
ลง ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์
-8-
ตารางที่ 3
IVL : กระแสเงินสด
ปี 2552
เทียบกับ
หน่วย : ล้านบาท ปี 2552 ปี 2551 ปี 2551
EBITDA 10,636 3,838 177%
การเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์ดำเนินงานสุทธิและอื่นๆ (1,084) (1,290) -16%
ค่าใช้จ่ายทางการเงินสุทธิ (1,884) (1,302) 45%
ภาษีเงินได้ (264) (28) 843%
กระแสเงินสดอิสระก่อนรายจ่ายฝ่ายทุน 7,404 1,218 508%
รายจ่ายฝ่ายทุน (3,785) (4,856) -22%
เงินสดสุทธิจากการ (ซื้อ) ขายบริษัทย่อย (165) (14,194) -99%
กระแสเงินสดอิสระหลังรายจ่ายฝ่ายทุน 3,454 (17,832) n/a
เงินปันผล (182) (136) 34%
เงินสดรับจากการออกหุ้นเพิ่มทุน 0 4,025 -100%
การเปลี่ยนแปลงในหนี้สินสุทธิ (3,272) 13,943 n/a
ข้อสังเกต: ข้อมูลทางการเงินรวมภายหลังการตัดรายการระหว่างกันในบริษัทในกลุ่ม (หรือระหว่างกลุ่มธุรกิจ) ทำให้อาจไม่เท่ากับยอดรวมของแต่ละ
ส่วนธุรกิจ
ตารางที่ 4
IVL : อัตราส่วนทางการเงิน
ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส
4/2552 3/2552 4/2551 ปี 2552 ปี 2551
อัตราส่วนสภาพคล่อง (เท่า) 0.9 0.9 0.8 0.9 0.8
อัตราหนี้สินสุทธิต่อเงินทุนของบริษัท (%) 63% 63% 70% 63% 70%
* อัตราหนี้สินในการดำเนินงานสุทธิต่อเงินทุนของบริษัท (%) 61% 60% 67% 60% 67%
อัตราความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย (เท่า) 7.4 5.6 0.5 6.7 2.7
** อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (%) 31.2% 15.7% -47.9% 30.0% 26.0%
*** อัตราผลตอบแทนต่อเงินทุนของบริษัท (%) 12.8% 8.8% -4.0% 13.8% 6.7%
* คิดจากหนี้สินในการดำเนินงานสุทธิ ซึ่งไม่รวมหนี้สินของโครงการลงทุนที่ยังไม่ก่อให้เกิดรายได้และกำไรแก่กิจการ
** กำไรสุทธิก่อนหักผู้ถือหุ้นส่วนน้อยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ย
*** กำไรจากการดำเนินงาน (Operating income) ต่อเงินทุนของบริษัท (หนี้สินในการดำเนินงานสุทธิบวกส่วนของผู้ถือหุ้น)
-9-
ธุรกิจ PET
ตารางที่ 5
ธุรกิจ PET : กำลังการผลิตและอัตราการใช้กำลังการผลิต (%)
ไตรมาส 4/2552 ปี 2552
เทียบกับ เทียบกับ
ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส
4/2552 3/2552 4/2551 3/2552 4/2551 ปี 2552 ปี 2551 ปี 2551
กำลังการผลิต (ตัน) 293,500 239,500 239,500 23% 23% 1,012,000 869,250 16%
ปริมาณผลิต (ตัน) 280,011 248,946 216,778 12% 29% 1,026,582 804,190 28%
อัตราการใช้กำลังการผลิต (%) 95% 104% 91% 101% 93%
ตารางที่ 6
ธุรกิจ PET : รายได้
ไตรมาส 4/2552 ปี 2552
เทียบกับ เทียบกับ
ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส
4/2552 3/2552 4/2551 3/2552 4/2551 ปี 2552 ปี 2551 ปี 2551
รายได้รวม
ล้านบาท 11,614 10,989 10,053 6% 16% 44,456 40,969 9%
ล้านเหรียญสหรัฐ 349 324 289 8% 21% 1,295 1,229 5%
รายได้ (ล้านบาท) ที่เพิ่มขึ้นมาจาก
การเปลี่ยนแปลงของปริมาณ 7% 18% 32%
การเปลี่ยนแปลงของราคา -1% -2% -18%
สัดส่วนรายได้แยกตามภูมิภาค
ไทย 7% 7% 6% 6% 6%
เอเชีย (ไม่รวมไทย) 4% 3% 3% 3% 3%
อเมริกาเหนือ 24% 23% 30% 27% 30%
(ยังมีต่อ)