มอนทรีออล รัฐควิเบก ประเทศแคนาดา - 7 สิงหาคม 2567 - กลุ่มธุรกิจ Combined PET ของอินโดรามา เวนเจอร์ส ประกาศแผนยุติการดำเนินงานของโรงงานผลิตกรดเทเรฟทาลิกบริสุทธิ์ (PTA) ในเมือง Montréal-Est ประเทศแคนาดา โดยจะเริ่มเตรียมการปิดโรงงานตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 เป็นต้นไป

การตัดสินใจดังกล่าวเป็นการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมโพลีเอสเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการสร้างโรงงานใหม่หลายแห่งและกำลังการผลิตส่วนเกินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศจีน โดยส่วนใหญ่เป็นการผลิตแบบบูรณาการ ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อผู้ผลิตในฝั่งตะวันตก แรงกดดันด้านต้นทุนวัตถุดิบเหล่านี้ ผนวกกับอุปสงค์ที่ลดลง และภาวะเงินเฟ้อ นำไปสู่อัตราการผลิตที่ลดลงและการปิดโรงงานอื่นๆ ในภูมิภาค อินโดรามา เวนเจอร์ส จึงได้ทบทวนกลยุทธ์ฐานการผลิตทั่วโลกของบริษัทฯ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ตามความจำเป็น เพื่อให้สามารถปรับตัวและคงความสารถในการแข่งขันด้านต้นทุนได้ โดยพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในพลวัตของอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ลูกค้าจะไม่ได้รับผลกระทบจากการปิดโรงงานดังกล่าว เนื่องจากโรงงานของอินโดรามา เวนเจอร์ส ในสหรัฐอเมริกา และฐานการผลิตที่มีอยู่ทั่วโลกของบริษัทฯ ช่วยให้มั่นใจได้ว่ามีโซลูชั่นด้านซัพพลายที่เชื่อถือได้และสามารถแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง

นายมูทูกุมาร ปารามาสิวัม ประธานและผู้บริหารร่วมของกลุ่มธุรกิจ Combined PET อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวว่า “เราเสียใจอย่างยิ่งที่ต้องประกาศเรื่องนี้ในวันนี้ การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ยากลำบากอย่างมาก และไม่ใช่เรื่องง่ายเลยอย่างไรก็ตาม ถือเป็นก้าวที่จำเป็นในการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาดที่ท้าทาย เราขอขอบคุณพนักงานทุกคนที่มอนทรีออล อย่างจริงใจ สำหรับความทุ่มเทและการอุทิศตนมาโดยตลอดนับตั้งแต่เราได้เข้าซื้อกิจการเมื่อปี 2558 ทีมผู้บริหารของอินโดรามา เวนเจอร์ส ตระหนักดีถึงผลกระทบของการตัดสินใจครั้งนี้ และเรามุ่งมั่นที่จะบรรเทาผลกระทบเชิงลบที่มีต่อพนักงานและชุมชนท้องถิ่นของเรา”

“เราทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อให้การสนับสนุนด้านต่างๆ อย่างมืออาชีพให้แก่พนักงานที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการมอบโอกาสในการโยกย้ายการทำงานภายในกลุ่มบริษัทฯ หากเป็นไปได้ นอกจากนี้ เราจะทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์ในท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดเพื่อลดผลกระทบต่อการดำเนินงานของพวกเขา และทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าการจัดหาสินค้าและบริการของพวกเขาจะไม่ได้รับผลกระทบ” นายดีเค อากาวาล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฯ อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าว

ในช่วงต้นปี 2567 บริษัทฯ ได้ประกาศกลยุทธ์ที่เรียกว่า ‘IVL 2.0’ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงยุทธศาสตร์บทใหม่ที่มุ่งเน้นการปรับปรุงโครงสร้างทางการเงินให้เหมาะสม ส่งเสริมการเติบโตจากการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจ และส่งมอบคุณค่าที่เพิ่มขึ้นให้กับลูกค้าผ่านโซลูชั่นที่ยั่งยืน โดยเสาหลักของกลยุทธ์ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้สินทรัพย์ การขับเคลื่อนความเป็นเลิศด้านการดำเนินงาน การปลดล็อกมูลค่าฐานการผลิตทั่วโลก และการรักษาความเป็นผู้นำในตลาดหลัก

อินโดรามา เวนเจอร์ส เป็นผู้นำระดับโลกด้านการผลิต PET โดยมีการดำเนินงานครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และอเมริกา